สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

PSP VS Ipod touch VS NDS Lite

PSP VS Ipod touch VS NDS Lite

 ฝ่าย SONY PSP

                   สวัสดีครับ เข้าสู่เดือนเมษายนแล้ว ซึ่งตอนนี้ผมเชื่อว่าทุกคนก็รู้สึกเช่นเดียวกันว่า "ร้อน" จริงๆ อย่างวันนี้ผมเองอยู่กับบ้านไม่ได้ออกไปไหน ยังรู้สึกเลยว่าร้อนมากๆ ร้อนแบบนี้สงสารเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่จริงๆ ครับ วันหยุดประจำสัปดาห์ทั้งที แถมอากาศร้อนแบบนี้ ผมก็ขอเอาเรื่องเบาๆ สบายๆ มาฝากกันจะดีกว่า ซึ่งก็จะเป็นเรื่องเบาๆ สบายๆ แบบสนุกสนานตามประสาคอเกมส์ครับ ถ้าจะพูดถึงเครื่องเกมส์คอนโซลซักตัวหนึ่ง ผมเชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักกับเครื่อง PlayStation จาก SONY ที่ประสบความสำเร็จมายาวนาน โดยได้ออกมาหลายรูปแบบ ทั้ง PlayStation คลาสสิคตัวดั้งเดิม, PlayStation2 หรือ PS2, รวมไปถึงเครื่อง PlayStation ที่มีหน้าจอในตัวเองอย่าง PS One และล่าสุดคือเครื่อง PlayStation พกพา หรือที่เราเรียกว่า PSP: PlayStation Portable นั่นเอง...

                   ความสำเร็จในวงการเกมส์ของ PlayStation โดย SONY Computer Entertainment Inc. (SCEI) นั้น ทำให้ชื่อของ PlayStation ติดตลาดและได้รับความนิยมอย่างมาก และก็มีค่ายเกมส์ชื่อดังให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง มาจนถึงยุคนี้ ยุคของอุปกรณ์พกพา ยุคของอุปกรณ์ไร้สาย... ทำให้ SONY อดไม่ได้ที่จะออกเครื่องเกมส์แบบพกพา ในชื่อของ PSP หรือ PlayStation Portable ออกมาเขย่าวงการเกมส์อีกครั้ง โดยอาศัยคอนเซปต์ของอุปกรณ์พกพา, ไร้สาย ที่ยังคงถึงความสนุกสนาน และความเป็นมืออาชีพในการทำเครื่องเกมส์อย่างเหนียวแน่น และ PSP เองก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องเกมส์เท่านั้น แต่มันยังเป็นเครื่องให้ความบันเทิงครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง หรือจะใช้เชื่อมต่อกับ PSP เครื่องอื่นๆ เพื่อเล่นเกมส์แบบ multi-player ก็ยังได้ ซึ่งวันนี้ ผมจะเอาเครื่อง PSP มาให้ทุกท่านได้ทำความรู้จักกับมันครับ ถือว่าเป็นการพัก เบรคจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มาดูเรื่องเบาๆ สบายๆ กันซักวันก็แล้วกัน...

SONY PSP: PlayStation Portable
Value Pack

SONY PSP หรือ PlayStation Portable ตัวที่นำมาให้ชมวันนี้ เป็นเครื่องในชุด Value Pack ที่บรรจุใส่กล่องกระดาษหน้าตาธรรมดาๆ ไม่ได้ดูโดดเด่น หรือสวยงามแต่อย่างใด

 

มาเจาะลึกดูที่ตัวเครื่องกันก่อนดีกว่าครับ ครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสกับเครื่อง SONY PSP นั้น ก็รู้สึกได้ว่าเป็นเครื่องเกมส์ที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัว เหมาะมือ และยังคงถึงตำแหน่งในการกดเพื่อเล่นเกมส์ได้อย่างไม่ทิ้งเชื้อของ PlayStation เลย

 

ตัวเครื่อง PSP เป็นสีดำเกือบทั้งหมด โดยหน้าหน้ามีจอ LCD ขนาดใหญ่ และเป็นตำแหน่งของปุ่มกดต่างๆ ส่วนด้านหลัง มีโลโก้ PSP อยู่ตรงกลางเครื่องซึ่งเป็นตำแหน่งของแผ่นเกมส์ที่จะใส่ลงไป และด้านหนึ่งก็ยังเป็นตำแหน่งของแบตเตอรี่ด้วย

 

ดูกันให้รอบๆ ก่อนครับ ด้านบนชของตัวเครื่องนั้น เป็นตำแหน่งของปุ่ม L และ R ที่วางมาอย่างเหมาะมือ ง่ายต่อการกด ส่วนตรงกลางเป็นช่องเสียบสาย USB Data Link, พอร์ทอินฟราเรด และปุ่มสำหรับเปิดฝาเพื่อใส่แผ่นเกมส์ครับ

 

ด้านล่างของตัวเครื่อง เป็นตำแหน่งของลำโพง Stereo ที่ built-in มา และยังมีช่องเสียบหูฟัง และช่องเสียบอะแปดเตอร์สำหรับชาร์จไฟ

 

สำหรับปุ่มกดเพื่อการเล่นเกมส์นั้น ก็ยังคงไปด้วยปุ่มมาตรฐานของเครื่อง PlayStation ครับ ทั้งปุ่ม บังคับทิศทาง ขึ้น/ลง/ซ้าย/ขวา, จอยอะนาล็อคที่เลื่อนได้รอบทิศทาง, ปุ่ม สามเหลี่ยม/สี่เหลี่ยม/วงกลม/กากบาท ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีปุ่มเปิด/ปิดที่สามารถล็อคปุ่ม หรือ HOLD ปุ่มได้ (ใช้ในกรณีดูหนัง/ฟังเพลง) และยังมีสวิตช์สำหรับเปิดสัญญาณ WiFi ด้วย ที่โดยปกติเราจะปิดไว้เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ และใช้งาน WiFi เมื่อเราต้อง
มาดูกันต่อกับฟังก์ชันมากมายในเครื่อง PSP ครับ ด้านหลังของตัวเครื่องด้านหนึ่ง เป็นตำแหน่งของสล็อต MemoryStick Duo ที่ในชุด Value Pack นั้นจะมีมาให้แล้ว 32MB โดยเป็นสื่อสำหรับเก็บไฟล์วีดีโอ, รูปภาพ, เพลงต่างๆ ที่เราจะมาเล่นในเครื่อง PSP นี้ รวมไปถึงเป็นสื่อที่เอาไว้สำหรับเซฟเกมส์ด้วย ส่วนภาพขวาคือช่องสำหรับใส่แผ่นเกมส์ ที่จะเป็นในลักษณะของแผ่น UMD ครับ

 

ตัวเกมส์นั้น จะมาในกล่องพลาสติก ที่ด้านในประกอบไปด้วยคู่มือและตัวแผ่น ที่เราเรียกว่าแผ่น UMD โดยเกมส์หนึ่งก็มีราคาสูงทีเดียวครับ ประมาณ 2 พันกว่าบาท

 

สำหรับแผ่น UMD นี้ ย่อมาจากแผ่น Universal Media Disc มีลักษณะคล้ายแผ่น mini-CD ... ไม่สิ น่าจะเรียกว่าคล้ายกับแผ่น mini-DVD มากกว่า เพราะเจ้าแผ่น UMD เห็นว่ามีขนาดเล็กแบบนี้ แต่มีความจุมากถึง 1.8GB โดยเป็นลักษณะของแผ่นอยู่ในกรอบพลาสติก และมีช่องว่างไว้สำหรับอ่านแผ่น ซึ่งผมเดาเอาว่า SONY ได้ทำแผ่น UMD มาเพื่อป้องกันการ copy เพราะนอกจากที่จะทำการอ่านข้อมูลจากแผ่นได้ยากแล้ว ยังต้องทำเจ้ากรอบพลาสติกนี้ขึ้นมาอีกถึงจะใส่ลงไปในเครื่อง PSP ได้ ซึ่งผมคิดว่าตัวแผ่นด้านในน่าจะเป็นแผ่น mini-DVD ธรรมดาๆ แต่ใส่กรอบไว้เพื่อป้องกันการปลอมครับ (ผมอาจจะเดาผิดก็ได้นะ) แต่ผมก็เชื่อว่าอีกไม่นานเราก็คงจะได้เห็นแผ่น UMD ปลอมในท้องตลาดกัน ^^'

 

สำหรับแบตเตอรี่ของเครื่อง PSP นี้ ก็เป็นแบตเตอรี่ Li-ion ความจุ 1800 mAh ใช้งานได้นานทีเดียว เล่นต่อเนื่องก็ได้นานกว่า 5-6 ชั่วโมงครับ นอกจากนี้ในกล่องยังมีซอง soft-case พร้อมสายคล้องข้อมือมาให้ด้วย

 

หูฟังที่ให้มาในกล่องก็เป็นหูฟัง SONY คุณภาพดี มีรีโมทมาให้ด้วย แต่ที่ผมแปลกใจก็คือในกล่อง PSP Value Pack นี้ กลับไม่มีสาย USB Data Link มาให้

Technical Specifications

SONY PSP: PlayStation Portable
Color
Black
Product Code
PSP-1001K
Dimensions
Approximately 6.7 in (W) x 2.9 in (H) x .9 in (D)
Weight
Approximately 280g / .62 lbs (including battery)
CPU
PSP CPU (System clock frequency 1 - 333MHz)
Main Memory
32MB
Embedded DRAM
4MB
Display
- 4.3 inch, 16:9 Wide screen TFT LCD
- 480 x 272 pixel, 16.77 million colors

- Maximum luminance 180 / 130 / 80cd/m2 (when using battery pack)

- Maximum luminance 200 / 180 / 130 / 80cd/m2 (when using AC adaptor)
Sound
Built-in stereo speakers
Main Input/Output
- IEEE 802.11b (Wi-Fi)
- USB 2.0 (mini-B)

- Memory Stick Duo™

- Infrared Port
Disc Drive
UMD Drive (Read only)
Main Connectors
- Memory Stick Duo™ Slot
- USB connector

- DC IN 5V connector

- Headset connector
Keys/Switches
- Directional buttons (Up/Down/Right/Left)
- Analog Stick

- Enter keys (Triangle, Circle, Cross, Square)

- Left, Right shoulder buttons x 1
- START button, SELECT button, HOME button x 1

- POWER/HOLD switch x 1

- Display button, Sound button, Volume +/- buttons x 1

- Wireless LAN switch (ON/OFF) x 1

- OPEN latch (UMD) x 1

Power
- Lithium-ion Battery
- AC Adaptor
Profile
- PSP Game
- UMD Audio (profile name TBD)

- UMD Video (profile name TBD)

Codec
- [Video]: "UMD": H.264/MPEG-4 AVC Main Profile Level3
- [Video]: "Memory Stick": MPEG-4 SP,AAC

- [Music]: "UMD": linear PCM,ATRAC3plus™

- [Music]: "Memory Stick": ATRAC3plus™,MP3(MPEG1/2 Layer3)
Security
(Encryption) 128bit AES (Copyright protection technology) MagicGate™
Access Control
Region, Parental Control
Wireless
communications
IEEE802.11b
- Infrastructure mode
- Ad hoc mode (connection up to 16 consoles)
PSP Value Pack
supplied
accessories
- AC adaptor
- Battery pack

- Memory Stick Duo (32 MB)

- Headphone with remote control
- Soft case and cloth

- UMD In-pack Sampler
PSP is a trademark of Sony Computer Entertainment Inc. Wireless internet connection and Memory Stick Duo™ may be required for certain functionality. Player responsible for Wi-Fi fees.

Video Playback

ขอพูดถึงความสามารถของตัวเครื่องนอกเหนือจากการเล่นเกมส์กันก่อนนะครับ ตัวเครื่อง PSP นี้ อย่างที่บอกไปก็คือมันสามารถที่จะเล่นไฟล์วีดีโอได้ด้วย โดยจะต้องทำการแปลงให้อยู่ในฟอร์แมต MP4 ลงใน MemoryStick Duo เสียก่อน และคุณภาพที่ได้นั้น ก็ชัดเจน หน้าจอมีความสว่าง สดใสเป็นอย่างมาก (แล้วแต่ขนาดของการบีบอัดด้วย)

Audio Playback

นอกจากดูหนังได้ ก็ต้องฟังเพลงได้ด้วยครับ ความสามารถในการเล่นไฟล์ MP3, SONY ATRAC3plus นั้น ในตัวเครื่อง PSP สามารถทำได้ดีทีเดียว คุณภาพเสียงที่ได้ รับรองว่าไม่แพ้เครื่องเล่น MP3 ทั่วไปอย่างแน่นอน ระดับ SONY ทำมาขนาดนี้ ถ้าแย่กว่าเครื่องเล่น MP3 ทั่วไปก็เสียชื่อกันพอดี

Photo Album

เท่านั้นยังไม่พอ กับความบันเทิงที่จะได้ เพราะ PSP ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องเล่นไฟล์รูปแบบ แบบมากันทั้ง album ก็ยังไหว และในแต่ละรูปก็ยังสามารถซูม ปรับเลื่อนดูภาพต่างๆ ได้อย่างอิสระด้วยครับ

WiFi Activated

และนี่คือเมนูสำหรับการเชื่อมต่อ WiFi กับเครื่อง PSP เครื่องอื่นๆ แต่ WiFi นี้ไม่สามารถ browse เพื่อใช้อินเตอร์เน็ตได้ครับ สำหรับการเชื่อมต่อเพื่อเล่นเกมส์แบบ multi-player กับ PSP เครื่องอื่นนั้น ก็สามารถทำได้ทั้งแบบ infrastructure และแบบ ad-hoc ที่สามารถเล่นได้สูงสุดถึง 8 เครื่องพร้อมกัน

System Information

รายละเอียดของตัวเครื่อง ก็สามารถเลือกดูได้เช่นกัน โดยสามารถบอกได้ถึง MAC Address ของแต่ละเครื่อง และสถานะการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่, ชื่อเครื่อง และการตั้งค่าในการใช้งานต่างๆ

 

สำหรับเครื่อง SONY PSP นั้น แน่นอนว่าจุดประสงคหลักๆ ของมันก็คือความสามารถในการเล่นเกมส์ครับ ซึ่งตอนนี้เกมส์ที่ออกมาสู่ตลาดแล้ว ยังคงเป็นเกมส์ภาษาญี่ปุ่นซะส่วนมาก (เวอร์ชันภาษาอังกฤษเพิ่มเปิดตัวไปไม่นานนี้) ทำให้เกมส์ต่างๆ ออกจะเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ แต่คนไทยเราเก่งอยู่แล้วครับ ถึงอ่านม่ออกก็มั่วจนเล่นได้อย่างสนุกสนาน (แม้กระทั่งเกมส์ภาษา ที่พี่ไทยอ่านไม่ออก ก็เคลียร์มาได้แบบไม่รู้เรื่อง จนญี่ปุ่นเองยังมึน ว่าทำไปได้ไง)

 

เกมส์แรกที่ผมได้ลองเล่นนั้น เป็นเกมส์ตีกอล์ฟครับ ที่ในเกมส์ก็มีรูปแบบการเล่นง่ายๆ แต่ก็ไม่น่าเบื่อ ภาพที่ได้ในเกมส์ก็สวยสดใส และเสียงดังชัดเจน เกมส์นี้ไม่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจอะไรมากมายครับ เล่นเอามันส์อย่างเดียว

 

อีกหนึ่งเกมส์ที่ผมได้ลองเล่นนั้น เป็นเกมส์ที่เราคุ้นเคยและมีชื่อเสียงมากตั้งแต่เครื่อง PlayStation แล้ว นั่นก็คือเกมส์ สามก๊ก หรือ Dynasty Warriors ที่ยอมรับเลยว่า ตั้งแต่เข้าเกมส์มาก็มีฉาก title ที่สวยงามประทับใจครับ

 

สำหรับรูปแบบการเล่นของ Dynasty Warriors นั้น ก็ใกล้เคียงกับการเล่นบนเครื่องคอนโซล อย่าง PlayStation เป็นอย่างมาก และก็เป็นเกมส์ที่หลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เรียกว่ายื่นให้ก็สามารถเล่นได้เลยครับ การใช้งานจอยอะนาล็อคกับเกมส์นี้ ก็สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี และถนัดมากด้วย

Conclusion

                  สำหรับเครื่อง SONY PSP นั้น ก็ถือได้ว่าเป็นเครื่องเกมส์อีกเครื่องหนึ่งจาก SONY ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สังเกตได้จากข่าวในวันเปิดจำหน่ายทั้งในญี่ปุ่นและอเมริกา มีคนต่อแถวเรียงคิวซื้อตั้งแต่เช้าตรู่จนหมดเกลี้ยง ผลิตไม่ทันขายกันเลย ซึ่งข้อสังเกตในการใช้งานก็คือ หน้าจอมีความสว่างชัดเจนมาก และเสียงที่ได้จากตัวเครื่องเองและจากหูฟังก็มีคุณภาพจริงๆ น่าเสียดายที่ผมเองยังไม่มีโอกาสได้ทดลองเล่นแบบ multi-player กับเครื่อง PSP เครื่องอื่นๆ เพราะเครื่องนี้ผมได้รับมานานพอสมควรแล้ว (ดองบทความไว้) ตอนนั้นยังคงหาผู้ใช้งาน PSP ในเมืองไทยได้ค่อนข้างยากครับ จึงยังไม่มีโอกาสได้ลองเชื่อมต่อดู ซึ่งเกมส์ที่จะใช้เล่นนั้น ก็ต้องรองรับกับ multi-player mode ด้วย (อย่างสามก๊ก หรือ Dynasty Warrior นั้น ไม่รองรับครับ) สำหรับอีกหนึ่งข้อสังเกตสำหรับตลาด PSP ในไทยก็คืออาจจะยังไม่ได้รับความนิยมมากเท่าไรนัก เพราะว่าตัวเครื่องเองก็มีราคาค่อนข้างสูง (หมื่นกว่าบาท) และตัวเกมส์ก็ยังแพงมาก (เกมส์ละสองพันกว่าบาท) รวมไปถึงเกมส์ที่เป็นภาษาอังกฤษยังหาซื้อได้ยาก ตรงนี้อาจทำให้เครื่อง PSP ไม่ได้รับความนิยมมากนัก ต่างจากเครื่อง PS2 ที่ตอนนี้ราคาก็ไม่แพง และแผ่นเกมส์ก็ถูกมากๆ (ก็พี่ไทยซะอย่าง ก๊อปกระจุย..) หากในอนาคตมีแผ่น UMD ปลอมออกมาเกลื่อนกลาด ก็ไม่แน่ครับว่าเราอาจจะได้เห็นเยาวชน เด็กๆ วัยรุ่นในบ้านเรา เดินถือ PSP กัน นั่งกดในรถไฟฟ้า BTS, รถไฟฟ้าใต้ดิน, ห้องเรียน, สถานที่เรียนพิเศษต่างๆ.. ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมว่าเราได้เห็นข่าวออกมาต่อต้านกันอีกระลอกอย่างแน่นอน ^^!! สำหรับเรื่องเบาๆ สบายๆ กับเครื่อง SONY PSP ในวันนี้ ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ครับ แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีคร้าบบ... :)

ที่มา http://www.overclockzone.com


ฝ่าย Ipod touch



แฝดเหมือนของ iPhone ที่มีคุณสมบัติเกือบทุกประการเหมือนกันเลยก็ว่าได้ คงจะยกเว้นเพียงอย่างเดียวที่ iPod touch ทำไม่ได้นั้นคือการโทรศัพท์นั้นเอง ซึ่งนอกเหนือจากนี้เรียกว่าทำได้ไม่น้อยหน้า ส่วนจะแตกต่างอะไรยังไงบ้างก็ค่อย ๆ ไล่อ่านไปเรื่อย ๆ นะครับ




ร่ิมกันที่กล่องที่ชวนให้สงสัยคือหน้ากล่องมี 2 แบบเป็นรูปศิลปิน 2 คนคือ Macy Gray และ Corinne Bailey Rae ซึ่งไม่ได้แบ่งว่าหน้ากล่องไหนเป็นความจุกี่ GB คือจะคละ ๆ กันไป ส่วนอุปกรณ์ในกล่องก็ตามนี้


* iPod touch
* สาย USB
* Dock Adapter
* แท่นวางเครื่องแนวนอน
* หูฟัง
* ผ้าเช็ดหน้าจอ
* แผ่นพับการใช้งานเบื้องต้น







ด้านล่างของ iPod touch (ซ้าย) และ iPod 5G (ขวา)




ด้านหลังของเครื่อง



ด้านข้างของเครื่อง



ฝาแฝด Ipod Touch & iPhone

ถ้าดู iPod touch แบบผ่าน ๆ รูปร่างหน้าตาก็คล้ายกับ iPhone เป็นอย่างมากไม่ว่าจะส่วนสูงและความกว้าง ส่วนถ้าพินิจพิจารณากันก็จะเห็นความแตกต่างในรายละเอียดกันพอสมควร เริ่มจากหน้าด้านเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว ด้านใต้จอมีปุ่มกดเพียงปุ่มเดียว รอบตัวเครื่องด้านหน้าล้อมกรอบด้วยพลาสติกสดำและอลูมิเนียมสีดำเป็นกรอบด้านนอก ด้านบนตัวเครื่องจะมีปุ่ม Sleep/Power on-off เพียงปุ่มเดียว ด้านล่างใต้เครื่องจะมี Dock Connector และช่องเสียบหูฟังอยู่เยื้องมาทางด้านขวา ด้านหลังตัวเครื่องยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้ได้คือเป็นสีเงินมันวาว จะมีจุดสักเกตเล็ก ๆ ก็ตรงมุมบนซ้ายเป็นกรอบพลาสติกสีดำที่ด้านในเป็นสายอากาศรับสัญญาณ Wi-Fi

โดยรวมแล้วสำหรับตัวเครื่องดูมาดขรึมจากกรอบสีดำทางด้านหน้าเครื่อง งานประกอบโดยรวมก็เรียบร้อยดี ยังมีที่ต้องติงอยู่บ้างในส่วนของานประกอบก็ตรงด้านใต้เครื่องทีเหมือนชิ้นส่วนฝาหลังจะผนึกไม่สนิทเรียบไปกับตัวเครื่องเท่าไหร่นัก



ภาษาไทยใน iPod touch

สำหรับภาษาไทยใน iPod ที่เป็นปัญหากันอยู่เนือง ๆ ก็ยังคงเป็นปัญหาสำหรับ iPod ทุกรุ่นที่ออกมาจากกล่องแบบไม่ได้แก้ไขอะไร ซึ่งอาจจะเป็นโชคดีที่ iPod touch ใช้ระบบพื้นฐานเดียวกับ iPhone ทำให้เราสามารถหาโปรแกรมเข้าไปแก้ไขให้ตัวเครื่องเพื่อให้แสดงผลภาษาไทยได้ทุกส่วนแล้วในปัจจุบันนี้ ส่วนคีย์บอร์ดภาษาไทยอาจจะต้องรออีกสักพักเพราะในปัจจุบันยังคงมีปัญหาในการใช้งานอยู่ แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าใครซื้อเครื่องมาใช้แล้วจะทำได้กันทุกคน เพราะขั้นตอนวิธีการทำก็จะต้องศึกษาเสียก่อนว่าทำกันยังไงแบบไหนก่อนที่จะลงมือแก้ไข
[เพิ่มเติม:ปัจจุบันมี Software ประยุกต์เป็นภาษาไทยเรียบร้อยแล้ว]


การใช้งาน

ขอเริ่มด้วยสีสรรหน้าจอที่แปลก ๆ ไปสักหน่อย คือเมื่อนำ iPod touch มาเทียบกับ iPhone แบบวางข้าง ๆ กันจะสังเกตเห็นได้ชัดคือสีสรรหน้าจอของ iPod touch สีจะนวล ๆ อมเหลืองกว่าหน้าจอของ iPhone จากนั้นลองนำมาเทียบกับหน้าจอของ iPod 5G ก็พบว่าหน้าจอของ iPod touch ก็ยังแสดงผลอมเหลืองกว่าหน้าจอ iPod 5G เช่นกัน (ถ้าใครมี iPod nano 1G อยู่กับตัวก็ลองเปิดหน้าจอขึ้นมาดูก็ได้ อาการอมเหลืองที่ว่าใกล้เคียงกับหน้าจอ iPod nano 1G ตอนที่ออกมาใหม่ ๆ ) สำหรับอาการดังกล่าวยังไม่มีการชี้ชัดว่าเป็นจากซอฟท์แวร์หรือชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ของตัวเครื่องกันแน่ ส่วนอาการ Black Effect ที่เป็นปัญหานั้นเครื่องทำการทดสอบไม่พบเจออาการดังกล่าว



COVER FLOW




กดเลือกเพลงตามตัวอักษรด้านข้าง (ใช้นิ้วเลื่อนลงและขึ้น)


สำหรับการใช้งานเกี่ยวกับดูหนังฟังเพลงก็เพียบพร้อมกับไว้ลูกเล่นใหม่ ๆ ที่สามารถทำได้บนหน้าจอแบบ Multi touch เพียงอย่างเดียวอย่างการสะบัดน้ิวไปมาบนหน้าจอเพื่อเลือกเพลงที่ต้องการ ระบบการแสดงผลหน้าปกเพลงแบบ Cover Flow ด้านการตะแคงเครื่องเป็นแนวนอนที่เราสามารถเลื่อนปกเพลงไปมาได้ด้วยการนำนิ้วมือมาสะบัดซ้ายขวา สำหรับการใช้งานจริงก็รู้สึกแปลก ๆ ไปบ้างจากสมัยที่ Click wheel ยังรุ่งเรืองที่ใช้การคลึงหมุนแล้วกดมาเป็นสะบัดแล้วจ้ิมแทน ความรวดเร็วในการเข้าถึงเมนูต่าง ๆ ให้ความเร็วดีกว่าที่เจอใน iPod classic สำหรับการค้นหาเพลงนอกจากการสะบัดนิ้วเลื่อนไปเลื่อนมาแล้ว ยังสามารถใช้นิ้วแตะที่แถบตัวอักษรภาษาอังกฤษด้านขวามือของหน้าจอเพื่อเป็นการเลื่อนหาเพลงที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรนั้น ๆ ได้อีกด้วย


การดูวิดีโอ

สำหรับเมนูเกี่ยวกับการเล่นวิดีโอยังคงแยกออกมาเป็นอีกหนึ่งเมนูเหมือนไอพอดรุ่นอื่น ๆ รูปแบบการแสดงผลด้านในจะโชว์ไฟล์วิดีโอแยกตามประเภทวิดีโอที่เราตั้งค่าไว้ (Video Kind) ทั้ง Movies, TV Show, Music Videos, Podcast ส่วนไฟล์วิดีโอที่ iPod touch รองรับยังคงเป็นไฟล์ชนิด mp4 ความละเอียดรวมกันไม่เกิน 300,000 พิกเซล (กว้างxสูง) ที่ 2,500 kbps เช่นเดิม

การแสดงผลไฟล์วิดีโอตัวเครื่องจะแสดงผลทางแนวนอนเพียงอย่างเดียว การรับชมให้ความรู้สึกที่ดีเนื่องจากหน้าจอขนาดค่อนข้างใหญ่ ถ้าหนังเรื่องไหนที่เรามีซับไตเติ้ลอยู่ด้วยก็ยังคงสามารถอ่านได้แบบไม่ต้องเพ่งสายตามากนัก การเลื่อนภาพวิดีโอเดินหน้าถอยหลังแบบหน่วง ๆ ที่เป็นปัญหาใน iPod รุ่นอื่น ๆ นั้น สำหรับ iPod touch ให้ความรู้สึกลื่นไหลมากกว่า

ส่วนของแถมอย่างแท่นวางเครื่องก็สามารถใช้ประโยชน์ได้ดีมากทีเดียวเมื่อนำมาใช้งาน เรียกว่าไม่ต้องเมื่อยมือถือเครื่องไว้ในขณะดูหนัง

สำหรับการปรับแสงหน้าจอขณะดูหนังที่มีใน iPod รุ่นอื่นนั้น สำหรับ iPod touch ไม่สามารถปรับแสงสว่างหน้าจอได้ในส่วนนี้ ซึ่งการปรับแสงสว่างจะเป็นแบบรวมทั้งหมดที่อยู่ในเมนู Settings > Brightness

ข้อแตกต่างระหว่าง iPod touch และ iPhone ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดูวิดีโอก็คือใน iPod touch เมื่อดูหนังจบจะไม่มีป๊อปอัพขึ้นมาถามเพื่อให้ลบไฟล์วิดีโอที่ดูเสร็จแล้ว ซึ่งข้อแตกต่างอันนี้คงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการซิงค์ข้อมูลที่ใน iPod touch สามารถตั้งค่าแบบ Manual (ใน iPhone ไม่สามารถตั้งค่าแบบ Manual ได้) ทำให้สามารถนำ iPod touch ไปเสียบเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องไหนก็ได้ที่มี iTunes เพื่อจัดการกับไฟล์เพลงและวิดีโอในเครื่อง



เมนูในส่วนของวิดีโอ


ขณะเล่นวิดีโอ


Internet

ก่อนเริ่มใช้งานอินเตอร์เน็ทเราก็ต้องตั้งค่า Wi-Fi ในเครื่องเสียก่อนจึงจะสามารถใช้งานในส่วนนี้ได้ ซึ่งการตั้งค่าก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรถ้าเรามี Wi-Fi อยู่ที่บ้านก็สามารถเข้าถึงได้ทันที ส่วนบ้านไหนซ่อนชื่อเอาไว้ก็สามารถทำการระบุ Wi-Fi ที่เราต้องการจะใช้งานได้เช่นกัน การตั้งค่ารองรับระบบความปลอดภัยที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันทั้ง WEP, WPA, WPA2

เร่ิมจากการท่องเว็บด้วยเบราเซอร์ Safari ที่ให้ความรู้สึกเหมือนการท่องเว็บต่าง ๆ เหมือนอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนไฟล์มัลติมีเดียที่ Safari มองเห็นในปัจจุบันนี้มีเพียงไฟล์ .mov เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งการรอบรับไฟล์ .mov นี้ทำให้เราสามารถเข้าไปดูหนังตัวอย่างต่าง ๆ จากในเว็บแอปเปิ้ลได้ทันที ส่วนไฟล์ยอดนิยมอย่างแฟลชวิดีโอหรือเว็บไซท์ที่ใช้แฟลชเป็นส่วนประกอบยังไม่สามารถแสดงผลในส่วนนั้นได้ ส่วนไฟล์มีเดียของไมโครซอฟท์คาดว่าแอปเปิ้ลคงปล่อยทิ้งไว้ก่อน ทำให้หลายคนที่จะประยุกต์การใช้งาน iPod touch เพื่อฟังรายการวิทยุในไทยผ่านหน้าเว็บไซท์ต่าง ๆ หรือจะเปิดเว็บเพื่อนำมาดูรายการทีวีก็คงต้องบอกว่ายังไม่สามารถทำได้

สำหรับระบบความปลอดภัยของ Safari ที่แอปเปิ้ลเตรียมมาให้ก็สามารถตั้งค่าเปิดปิดได้ง่าย ๆ จากเมนู Settings > Safari ก็คือ Java Script, Plug-Ins, Block Pop-ups, Accept Cookies ซึ่งก็เพียงพอต่อการท่องเว็บทั่วไปแล้ว

สำหรับในส่วนนี้เรียกว่าทดแทนการนำคลิปวิดีโอต่าง ๆ มาใส่ในเครื่องได้อย่างดี แถมแก้เบื่อเวลาว่างได้ดีมากอีกด้วย การใช้งานทั่วไปก็ขึ้นอยู่กับความเร็วอินเตอร์เน็ทที่เราใช้งานว่าจะสามารถโหลดคลิปวิดีโอต่าง ๆ ได้เร็วหรือช้ามากแค่ไหน การค้นหาคลิปวิดีโอต่าง ๆ เท่าที่ทดสอบก็เจอพวกคลิปที่เราต้องการโดยเฉพาะคลิปเก่าย้อนหลัง ส่วนพวกคลิปวิดีโอใหม่ ๆ ที่เพิ่งอัพโหลดเข้าไปไว้ในเว็บ YouTube.com อาจต้องรอสักพักกว่าจะค้นหาเจอใน iPod touch ส่วนที่จะมีปัญหาอยู่บ้างก็คือการค้นหาชื่อคลิปวิดีโอภาษาไทยที่ในปัจจุบันนี้ iPod touch ยังไม่สามารถนำคีย์บอร์ดภาษาไทยมาใส่ได้อย่างสมบูรณ์ [ปัจจุบันมี Software คีย์บอร์ดภาษาไทยแล้ว]







Photos


Photo Album



ขณะใช้นิ้วเลื่อนดูรูป


สรุปแล้วสำหรับ iPod touch แฝดเหมือนของ iPhone ก็มีจุดเด่นที่น่าใช้งานหลายอย่าง ไม่ได้จำกัดการใช้งานแค่เฉพาะดูหนังฟังเพลงเพียงแค่สองอย่างนี้อีกต่อไป เรายังสามารถใช้งานเพื่อประโยชน์อื่น ๆ ได้อีกในการใช้ Safari ท่องเว็บหรือจะใช้ประโยชน์จาก Web App ก็มีแบ่งเป็นหมวมหมู่ให้คุณเลือกใช้ได้ตามสะดวก ย่ิงถ้าคุณไม่ต้องการวุ่นวายกับการแฮกค์ตัวเครื่องเพื่อลงโปรแกรมต่าง ๆ การใช้งาน Web App จากในเว็บแอปเปิ้ลก็น่าจะเพียงพอในการใช้งานเบื้องต้นทั้งเกม, เว็บสำหรับโปรแกรมแชทอย่าง MSN และ iChat เป็นต้น

เสน่ห์ของ iPod touch คงจะพูดไม่ได้แล้วใช้งานง่ายเหมือนกับ iPod รุ่นอื่น ๆ ซึ่งในการใช้งานเบื้องต้นสำหรับมือใหม่แนะนำให้ดาวน์โหลดคู่มือการใช้งานฉบับเต็มมาศึกษาเพิ่มเติมด้วย นอกเหนือจกาเรื่องนี้แล้ว iPod touch ก็มีเสน่ห์น่าใช้งานหลายอย่างด้วยกัน ซึ่งก็พอจะทำลืมจุดด้อยบางส่วนไปได้

ส่วนข้อเสียบางอย่างคงไม่สามารถแก้ไขได้เพราะตัวเครื่องถูกออกแบบให้เป็นแบบนี้อยู่แล้วอย่างเช่นการปรับระดับเสียงที่จะต้องจิ้มผ่านหน้าจอเพียงอย่างเดียว ส่วนเรื่องหน้าจออมเหลืองจุดนี้อาจจะเป็นปัญหาจากซอฟท์แวร์ก็เป็นได้ ซึ่งก็ต้องรอให้แอปเปิ้ลปล่อยซอฟท์แวร์อัพเดทตัวใหม่ออกมาก่อนแล้วค่อยดูกันอีกทีว่าเป็นที่ซอฟท์แวร์หรือว่าเป็นที่ชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ในตัวเครื่อง

จุดสังเกต

* ตัวเครื่องแกะกล่องยังไม่รอบรับการแสดงผลภาษาไทย
* ไม่มี Enable Disk เพื่อใช้เซฟงานแบบ iPod รุ่นอื่น ๆ
* ตัวเครื่องจับถือได้ถนัดมือ
* หน้าจอเป็นรอยยากมาก แม้ไม่ได้ติดฟิลม์กันรอย
* Safari และ YouTube ช่วยเพิ่มสีสรรในการใช้งาน

อ้างอิง : Siampod.com

 


 

ฝ่าย Nintendo DS Lite

สัมผัสตัวจริงกับ Nintendo DS Lite

Review by Mont & Mint









พวกเราได้เห็นวิวัฒนาการเกมมือถือของบริษัท Nintendo ตั้งแต่ Gameboy ที่ฮิตสุดๆ ยุคต่อมาก็จะเป็นยุคของ Gameboy Advence มีเกมดีๆออกมาให้ได้เล่นกันเพียบแล้วก็มาถึงจุดเปลี่ยนของ Design กลายมาเป็น Gameboy Advence SP ล่าสุดในปี 2005 ก็ได้ปล่อยน้องคนสุดท้องที่ชื่อว่า Gameboy Micro มี Design ที่เล็กกระทัดรัดบวกกับหน้าจอที่มีความสว่างคมชัดขึ้นเป็นจุดขาย ทั้งหมดนั้นคือเครื่องเกมใน Series ของ Gameboy ( ที่จริงมีเยอะกว่านี้ แต่ผมกล่าวถึงแค่ตัวหลักๆนะครับ ^ ^ ) เอาละมาดูทางด้านเครื่องเกมมือถือ Nintendo DS กันบ้าง Nintendo DS เป็นชื่อย่อมาจาก Nintendo Dual Screen ครื่องเล่นเกมมือถือ Series ใหม่ที่บริษัท Nintendo ปล่อยออกมาในปี 2004 (ไม่ใช่เครื่องเกมที่พัฒนาต่อจาก Gameboy Advence นะครับ ) เป็นเครื่องเกมที่มีลูกเล่นแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร เพราะมี 2 หน้าจอ O_O จอบนเป็นจอ LCD แบบปกติส่วนจอล่างเป็นจอแบบ Touchscreen ( ระบบสัมผัสหน้าจอ ) ทำให้เกิดการเล่นเกมที่มีความแปลกใหม่อย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนกับเครื่องเล่นเกมมือถือรุ่นต่างๆ ด้วยเหตุนี้เองทำให้เครื่องเกมมือถือ Nintendo DS ได้รับความนิยมจาก Gamer ทั่วโลก มียอดขายถล่มทลายอยู่ในขณะนี้ จนมาถึงปี 2006 บริษัท Nintendo ได้ปล่อยเครื่องเกมมือถือ Nintendo DS โฉมใหม่ที่มีขนาดเบาและเล็กกว่าเครื่องรุ่นเก่า Design สวยงามขึ้นกว่าเดิม ทำให้ Gamer ทั่วโลกหลงไหลไปกับความสวยงามของมันจนอยากจับจองเป็นเจ้าของอีกซักเครื่องทั้งๆที่มีเครื่องรุ่นเก่าอยู่แล้ว ( ผมก็คนนึ่งละ ฮ่า ฮา ฮา ) เพียงแค่วางขายวันแรกของก็ขาดตลาดซะแล้ว - -“ เปิดตัวได้อย่างสวยงามจริงๆครับสำหรับ Nintendo DS Lite


ความคมชัดของหน้าจอกับสีสันที่สดใสขึ้น





ต้องยอมรับเลยว่า Nintendo DS Lite มีหน้าจอที่สว่างกว่า ชัดใสกว่ารุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัด ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าหน้าจอเกมทั้ง 2 จอ นั้นเปลี่ยนจากจอ LCD แบบ Semitransmissive กลายเป็น LCD แบบ Semitransmissive ซึ่งมีระดับความสว่างสูงกว่าจอ LCD แบบเก่าแต่ขนาดของหน้าจอนั้นยังมีขนาด 3 นิ้วเท่าเดิม หลังจากที่ได้ทดลองเล่นกับเกมต่างๆดูแล้วสีที่ได้ออกมานะสดใสกว่ารุ่นเดิมมาก เรียกได้ว่ามองจอของ Nintendo DS Lite แล้ว กลับไปมองตัวเดิมดูเหมือนจอมืดไปเลยครับ - -“
ตัวเครื่องสามารถปรับความสว่างของแสงได้ 4 ระดับครับ หลังจากที่ทดลองปรับดูแล้วระดับ 2 – 3 กำลังดีครับไม่สว่างหรือมืดจนเกินไป ขอเตื่อไว้ก่อนอย่าปรับระดับ 4 แล้วปิดไฟเล่นนะแสงอาจแทง ตาบอดได้ครับ อิอิ

ปุ่มต่างๆที่เปลี่ยนไปกับการบังคับที่นุ่มนวลขึ้น







ปุ่มกดต่างๆบน DS Lite นั้นได้ถูกปรับเปลี่ยนจาก DS ตัวเดิมไปมากพอสมควรเลยละครับ โดยเฉพาะปุ่มเปิด/ปิดเครื่องที่ผมมักจะกดผิดเป็นปุ่ม Start อยู่บ่อยๆ^^ (เล่นๆเกมไปปิดเครื่องซะงั้น) ได้ถูกย้ายมาไว้ทางด้านข้างทางขวา โดยวิธีการเปิด/ปิดก็ได้ถูกปรับเปลี่ยนไปด้วยจากที่เคยกดที่ปุ่มหนึ่งครั้งเพื่อเปิดเครื่อง กลายเป็นแบบเลื่อนปุ่มค้างไว้เพื่อเปิดเครื่องแทน(คล้ายๆกับPSP) แรกๆอาจจะยังไม่ค่อยชินหาปุ่มเปิดเครื่องไม่เจอ แต่พอใช้ๆไปแล้วจะรู้สึกสะดวกกว่าเดิมมากเลยละครับ (ไม่ต้องกังวลกับการกดปุ่มผิดอีกต่อไป) ปุ่ม Select กับ ปุ่ม Start ก็ได้ถูกย้ายจากด้านบนขวามาอยู่ทางด้านล่างขวาแทนและได้ถูกปรับเปลี่ยนรูปร่างจากปุ่มสี่เหลี่ยมผืนผ้ากลายเป็นปุ่มกดแบบกลมๆแทนดูดีไปอีกแบบครับ ทางด้านปุ่มทิศทางหรือ D-Pad ของ DS Lite นั้นมีขนาดสั้นกว่า DS ตัวเก่าเล็กน้อยถ้าใครกลัวว่าจะเป็นปัญหาในการบังคับละก็ไม่ต้องกังวลเลยครับ เพราะทาง Nintendo ทำออกมาได้กระชับนิ้วมากๆพอกดลงไปรู้สึกได้เลยว่ามันนุ่มดีจริงๆ จากการทดลองเล่น Mario Kart ปรากฏว่าสามารถทำ Drift Turboได้อย่างง่ายดาย (แซงฉิวเลยครับ) ส่วนทางด้านปุ่ม A , B , X , Y นั้นก็ถูกลดขนาดลงมานิดหน่อยตามขนาดของตัวเครื่อง เมื่อกดลงไปแล้วให้ความรู้สึกเดียวกันกับปุ่มทิศทางเลยละครับ (นุ่มสบายนิ้ว) แถมแต่ละปุ่มยังถูกขยับเข้ามาให้ใกล้กันมากขึ้นทำให้เราสามารถกด 2 ปุ่มพร้อมกันเล่นเกม Dragon Ball ปล่อยพลังได้อย่างสบายๆเลยทีเดียว

ปากกาหรือ Touch Pen ที่ใหญ่ขึ้น







จากปากกาตัวเก่าที่ดูเล็กและไม่ค่อยถนัดมือซักเท่าไหร่ เวลาเล่นเกมเชียร์ทีไรมักจะหลุดมือแทบทุกครั้ง(หรือมือผมใหญ่หว่า^^) พอมาเป็น DS Lite ก็ได้ถูกพัฒนาปากกาให้ใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิม(ตรงข้ามกับส่วนอื่นๆที่ทำให้เล็กลง) เมื่อได้ลองจับแล้วรู้สึกถนัดมือมากกว่าเดิมเยอะเลยครับ ลองเอามาเล่นกับเกมเชียร์ดู โอ้...จิ้มไม่มีพลาด(เวอร์ๆ อิอิ) แม้จะไม่ถึงขนาดจิ้มไม่พลาดแต่ก็ช่วยให้จิ้มง่ายขึ้นเยอะเลยละครับ จะลาก จะหมุน จะวน ทางไหนก็สบาย ลองเอาไปเล่นกับเกม Puzzle สุดฮิตอย่าง Meteos ก็สามารถลากบล็อกต่างๆได้อย่างง่ายดายไม่มีพลาดอีกด้วยจิ้มบล็อกไหนไปบล็อกนั้น ปากกาดีมีชัยไปกว่าครึ่งว่าไหมครับ^^





ในตอนนี้ Nintendo DS Lite มีสีให้เลือกอยู่ 3 สีครับมี Crystal White ( สีขาวมุก ), Ice Blue ( สีฟ้า ) และ Enamel Navy ( สีน้ำเงินเข้ม ) แต่ละสีมีความสวยงามไปคนละแบบทำให้ตัดสินใจยากจริงๆครับ



อุปกรณ์มาตรฐานในกล่องของ Nintendo DS Lite มีดังนี้ครับ



1. ตัวเครื่อง Nintendo DS Lite พร้อม Battery Li - ion 1000 mAh ( บรรจุอยู่ในตัวเครื่อง )
2. คู่มือการใช้งานตัวเครื่อง Nintendo DS Lite
3. คู่มือการใช้งานโปรแกรม PICTOCHAT
3. Adapter ( ที่ช๊าตไฟ ) 110v
4. สายคล้องมือ
5. ปากกา Stylus 2 ด้าม ปกติจะมีเสียบไว้หลังเครื่องแล้ว 1 ด้ามและมีสำรองให้อีก 1ด้าม

เรามาดู Spec ของเจ้าเครื่อง Nintendo DS Lite กันเถอะ ( อ้างอิงจากเครื่อง Nintendo DS เดิม )














Nintendo DS Lite มี CPU สองตัวครับคือ
ARM 9 ความเร็ว 67 MHz ( สำหรับเกม DS )
ARM 7 ความเร็ว 33 MHz ( สำหรับเกม GBA )
หน่วยความจำหลักขนาด 4 MB
ARM9/ARM7 มีหน่วยความจำแชร์ขนาด 32 KB และเจ้า ARM7 มีหน่วยความจำภายในขนาด 64 KB
VRAM ( แรมของชิปกราฟฟิค ) ขนาด 656 KB
หน้าจอเป็น LCD ความละเอียด 256*192 เท่ากันทั้งสองจอ แสดงสีได้ 262,144 สี

เอนจิ้นกราฟฟิค 2 มิติ
ภาพแบ็คกราวนด์ ซ้อนกันสูงสุด 4 ชั้น แสดงวัตถุได้สูงสุด 128 ชิ้น

เอนจิ้นกราฟฟิค 3 มิติ
Coordinate Transform Capability สูงสุด 4 ล้าน Vertices/วินาที
สร้างโพลีก้อนสูงสุด 1.2แสนโพลิกอน / วินาที
อัตรา Pixel Fill Rate สูงสุด 30 ล้านพิกเซล/วินาที

ระบบเสียง
16 Chanel ADPCM / PCM
มีช่องเสียงไมโครโฟน และช่องเสียบหูฟัง

ระบบการสื่อสารไร้สาย
แลนไร้สายตามมาตรฐาน IEEE 802.11
มีโปรแกรม PICTOCHAT ให้มาในเครื่องเลย สามารถแช็คกันระหว่างเครื่อง Nintendo DS Lite ได้เลย

อุปกรณ์ป้อนคำสั่ง
ปุ่มทิศทาง ปุ่ม A , B, X, Y, R, L, Start, Select, และปุ่ม Power

Credit: น้า Auns555

มาดูสเปคเปรียบเทียบระหว่าง Nintendo DS กับ Nintendo DS Lite กันครับ











ขนาดตัวเครื่อง
DS Lite: 133.0x73.9x21.5มิลลิเมตร (เมื่อพับจอ)
DS รุ่นปกติ: 148.7x84.7x28.9มิลลิเมตร (เมื่อพับจอ)

น้ำหนัก (รวมทั้งปากกาและแบตเตอรี่)
DS Lite: 218 กรัม
DS รุ่นปกติ: 275 กรัม

ขนาดปากกาสไตลัส
DS Lite: 87.55x4.99 มิลลิเมตร
DS รุ่นปกติ: 75.0x4.0 มิลลิเมตร

จอบน
DS Lite: 3 นิ้ว transparent TFT color LCD โดยมีแสงสว่างจอปรับได้ 4 ระดับ,ความละเอียดภาพ 192x256 พิกเซล, 0.24mm dot pitch, 260,000 สี
DS รุ่นปกติ: 3 นิ้ว semitransparent TFT color LCD, ความละเอียดภาพ 192x256 พิกเซล, 0.24mm dot pitch, 260,000 สี

จอล่าง
DS Lite: 3 นิ้ว transparent TFT color LCD โดยมีแสงสว่างจอปรับได้ 4 ระดับ,ความละเอียดภาพ 192x256 พิกเซล, 0.24mm dot pitch, 260,000 สี
DS รุ่นปกติ: 3 นิ้ว semitransparent TFT color LCD, ความละเอียดภาพ 192x256 พิกเซล, 0.24mm dot pitch, 260,000 สี

พลังแบตเตอรี่
DS รุ่นปกติ: 6-10 ชั่วโมง
ชาร์ตแบตเตอรี่เต็ม : 4 ชั่วโมง

DS Lite:
ระดับความสว่างต่ำสุด: 15-19 ชั่วโมง
ระดับความสว่างต่ำ: 10-15 ชั่วโมง
ระดับความสว่างสูง: 7-11 ชั่วโมง
ระดับความสว่างสูงสุด: 5-8 ชั่วโมง
ชาร์ตแบตเตอรี่เต็ม : 3 ชั่วโมง





จุดเด่นของ Nintendo DS Lite
1. มีขนาดเล็กกว่าเดิม พกพาสะดวก
2. จอ LCD สว่างกว่า ชัดกว่า สีสันสดใสกว่าเดิม
3. เล่นได้นานขึ้น
4. ช๊าตไฟได้เร็วขึ้น
5. บังคับได้ง่ายขึ้น
6. Design สวยงาม

จุดด้อยของ Nintendo DS Lite
1. ตัวเครื่องเป็นรอยได้ง่าย
2. ช่องใส่ GBA สั้นเกินไป
3. ต้องหา Adapter แปลงไฟเพิ่มเติม เพราะที่ให้มาไม่สามารถใช้กับไฟในบ้านเราได้(แต่ต่อไปอาจจะมี Adapter สำหรับบ้านเรา)





เป็นยังไงกันบ้างครับอยากจับจองเจ้า Nintendo DS Lite มาเป็นเจ้าของกันมากขึ้นหรือป่าว อิอิ ความสวยงามน้องๆ IPOD เลยทีเดียว ช่วงนี้ตามร้านขายเครื่องเกมต่างๆก็เริ่มนำเจ้า Nintendo DS Lite มาขายกันบ้างแล้ว แต่ราคายัง 10,000 UP กันอยู่เลยครับราคาสูงใช่ย่อยเลยละ - -“ แต่ผมรับรองว่าซื้อมาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน สามารถเล่นกับ Super Card หรือ M3 ได้อย่างไม่มีปัญหา อ้อ... ตอนซื้อก็อย่าลืมเชค Dead Pixel กับ Bright Pixel ด้วยนะ DS Lite ดูง่ายครับเพราะจอชัดมาก สุดท้ายนี้ต้องขอบอกว่า “ สาวก Nintendo DS ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงจ้า ^ ^

ที่มา http://www.flashfly.net/

 

ความคิดเห็น

  1. 1
    โหลดเพลง
    โหลดเพลง 06/04/2010 21:32

    อยากได้ PSP มากๆเลย


  2. 2
    benza_rama
    benza_rama 22/09/2010 18:49
    psp รุ่นอะไร
  3. 3
    tanawin tantrasai
    tanawin tantrasai nano-non@hotmail.com 18/02/2011 22:06
    psp ดีที่สุด
  4. 4
    mrjet1975
    mrjet1975 mrjet1975@gmail.com 27/03/2011 06:49
    nintendo DS liteเวลาCharge battery สถานะLED จะเป็นยังไงครับ
  5. 5
    พงศ์ศิริ
    พงศ์ศิริ aodnaruto123@hotmail.com 14/04/2011 18:51
    nds ครับ สวย ใช้งานดี ดูหนังฟังเพลงก้ได้ เเต่ต้องมี program moonshell2 ฟังได้เเต่งเพลงล้อเรียนยังได้เลย ส่วนดูหนังห้สบายตากว่าเจ้า psp นี้มาก psp อยู่ในที่สว่างดูหนังไม่รุ้เรื่องเลย ส่วน nds ดูได้ไม่มีปัญหาครับที่มือหรือที่สว่างก้ได้ เล่น wi-fi เล่นบังง่ายเลยใช้ดุเเผนที่โลกยังได้เลย เกมสนุกเยอะเเยะครับ ส่วนเม็ม2gbโหลดเกมได้สูงสุด30เกมส์ครับ ถ้าpspได้สัก 2-3 เกมส์ เอง เชียร์ nds เต็มที่ครับ เกมส์ rpg ก้ออกมาเเนวมันส์ๆทั้งนั้น เช่นเกมส์ call of duty เเละเกมส์ moon ส่วนใครอยากเล่นเเนวออกสยองขวัญก็ต้องเกมส์ dementium the ward ,dementium2ครับ รับรองเเถบเฟี้ยงเครื่องทิ้งเชียวละ เเนะนํานะครับ เล่นต้องเล่นคนเดียว ปิดไฟ ใส่หูฟังรับรองได้บรรยากาศมากครับ
     ส่วนเว็บดหลดเกมส์
    www.soi13.com อันนี้สําหรับ nds นะครับ
    www.hi.92.wy  ส่วนอันนี้มีทั้ง psp เเละเกมส์อืื่นๆด้วยครับ
    เชียร์ NINTENDO NDSL เต้มที่ 

แสดงความคิดเห็น

* *

 

*

view